- ไปที่ส่วน “การดูตลาด”
- เปิดใช้งานเพื่อรับข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับราคาสินทรัพย์ แนวโน้ม และปริมาณการซื้อขาย
- เลือกสินทรัพย์ที่คุณต้องการติดตามและใช้ข้อมูลเพื่อตัดสินใจซื้อหรือขาย
การเชี่ยวชาญตัวบ่งชี้การซื้อขาย Pocket Option

แพลตฟอร์ม Pocket Option มอบเครื่องมือหลากหลายให้เทรดเดอร์เพื่อตัดสินใจซื้อขายสินทรัพย์อย่างรอบคอบ แทนที่จะเพียงซื้อหรือขาย ผู้ใช้คาดการณ์ว่าราคาสินทรัพย์จะขึ้นหรือลง หากคาดการณ์ถูกต้อง พวกเขาสามารถรับกำไรได้สูงถึง 92% ในบทความนี้ เราจะทบทวนเครื่องมือหลักบนแพลตฟอร์ม Pocket Option ที่สามารถช่วยปรับปรุงการเทรดของคุณ
1. การดูตลาด
เทรดเดอร์หลายคนเพียงแค่ดูที่ตัวบ่งชี้การดูตลาดเพื่อตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายสินทรัพย์ คุณสมบัติการดูตลาดบน Pocket Option ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถติดตามแนวโน้มตลาดปัจจุบันได้แบบเรียลไทม์ คุณสามารถดูราคาสินทรัพย์ ปริมาณการซื้อขาย และการเคลื่อนไหวของตลาดเพื่อติดตามสภาวะตลาดล่าสุด
เพื่อเปิดใช้งานคุณสมบัตินี้:

2. สัญญาณ Pocket Option
สัญญาณ คือคำแนะนำอัตโนมัติที่แสดงทิศทางตลาดที่เป็นไปได้ เมื่อสัญญาณปรากฏบนแผนภูมิ อาจแนะนำว่าควรซื้อหรือขายสินทรัพย์ตามทิศทางของลูกศร
วิธีใช้สัญญาณบน Pocket Option?
- เปิดใช้งานสัญญาณ: ไปที่ส่วน “สัญญาณ” บนแพลตฟอร์ม Pocket Option และเปิดใช้งาน สิ่งนี้จะทำให้ลูกศรปรากฏบนแผนภูมิของคุณ
- ดูลูกศร: ลูกศรขึ้นบ่งบอกถึงการซื้อที่อาจเกิดขึ้น ในขณะที่ลูกศรลงบ่งบอกถึงการขายที่อาจเกิดขึ้น
- ประเมินสัญญาณและทำการเทรด: เมื่อสัญญาณถูกเปิดใช้งาน คุณสามารถวางการเทรดโดยเลือก “ซื้อ” หรือ “ขาย” ขึ้นอยู่กับทิศทางของลูกศร
สัญญาณตัวบ่งชี้การซื้อขาย Pocket Option เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการระบุจุดเข้าและออกที่อาจเกิดขึ้น แต่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับตัวบ่งชี้อื่นๆ และการวิเคราะห์ตลาดของคุณเอง

3. ตัวบ่งชี้บน Pocket Option
ตัวบ่งชี้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่ช่วยให้เทรดเดอร์ประเมินแนวโน้มตลาด โมเมนตัมราคา และการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น แบ่งออกเป็นสองประเภท: ตัวบ่งชี้ตามแนวโน้มและตัวบ่งชี้โมเมนตัมและการกลับตัว

ตัวบ่งชี้ตามแนวโน้ม
ตัวบ่งชี้เหล่านี้เหมาะสำหรับการกำหนดทิศทางตลาด ซึ่งช่วยให้คุณอยู่ในด้านที่ถูกต้องของแนวโน้ม
- MACD (Moving Average Convergence Divergence) — ช่วยกำหนดโมเมนตัมและทิศทางแนวโน้มโดยใช้การตัดกันของเส้น
- SuperTrend — วาดเส้นสีที่เปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีเขียวเมื่อแนวโน้มเปลี่ยน ให้สัญญาณชัดเจนสำหรับการเข้าสู่ตลาด
- Parabolic SAR — วางจุดที่เปลี่ยนตำแหน่งเมื่อแนวโน้มเปลี่ยน เหมาะสำหรับการกำหนดจุดออก
ตาราง 1: ตัวบ่งชี้ตามแนวโน้ม
ตัวบ่งชี้ | การตั้งค่า | สินทรัพย์ที่เหมาะสม | เวลาหมดอายุ |
---|---|---|---|
MACD | เร็ว: 12, ช้า: 26, สัญญาณ: 9 | คู่สกุลเงินหลัก, สินค้าโภคภัณฑ์ | 15-30 นาที |
SuperTrend | ระยะเวลา: 10, ตัวคูณ: 3 | สกุลเงินดิจิทัล, ดัชนี | 5-15 นาที |
Parabolic SAR | ขั้น: 0.02, สูงสุด: 0.2 | คู่สกุลเงินหลัก | 5-15 นาที |
ตัวบ่งชี้โมเมนตัมและการกลับตัว
ตัวบ่งชี้เหล่านี้ช่วยกำหนดช่วงเวลาที่ทิศทางราคาอาจเปลี่ยนแปลง รวมถึงระบุสภาวะซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไปในตลาด
- RSI (ดัชนีกำลังสัมพัทธ์) — วัดพลวัตของราคาในสเกล 0 ถึง 100 โดยที่ค่าต่ำกว่า 30 อาจบ่งชี้การซื้อและค่าสูงกว่า 70 อาจบ่งชี้การขาย
- Stochastic Oscillator — เปรียบเทียบราคาปิดปัจจุบันกับช่วงราคาในช่วงเวลาที่กำหนด สร้างสัญญาณเมื่อเส้นตัดระดับสำคัญเช่น 20 (ขายมากเกินไป) หรือ 80 (ซื้อมากเกินไป)
- Bollinger Bands — สร้างระดับแนวรับและแนวต้านแบบไดนามิกตามความผันผวนของตลาด ช่วยระบุช่วงเวลาในการซื้อหรือขาย
ตาราง 2: ตัวบ่งชี้โมเมนตัมและการกลับตัว
ตัวบ่งชี้ | สัญญาณซื้อที่แม่นยำ | สัญญาณขายที่แม่นยำ | อัตราความสำเร็จ |
---|---|---|---|
RSI | ข้ามเหนือ 30 หลังจากการแยกขาขึ้น | ข้ามต่ำกว่า 70 หลังจากการแยกขาลง | 65-75% ในตลาด |
Stochastic | เส้น K ตัดเหนือเส้น D ต่ำกว่าระดับ 20 | เส้น K ตัดต่ำกว่าเส้น D เหนือระดับ 80 | 60-70% ในตลาด |
Bollinger Bands | ราคาแตะแถบล่าง จากนั้นเคลื่อนเข้าด้านในด้วยปริมาณที่เพิ่มขึ้น | ราคาแตะแถบบน จากนั้นเคลื่อนเข้าด้านในด้วยปริมาณที่เพิ่มขึ้น | 55-65% ในทุกตลาด |

2. ปฏิทินเศรษฐกิจ
ปฏิทินเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่ช่วยให้พวกเขาติดตามเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ ข่าวสาร และรายงานที่กำลังจะเกิดขึ้นซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาด การรู้เหตุการณ์เหล่านี้ช่วยคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดขึ้นและปรับปรุง กลยุทธ์การเทรด
วิธีใช้ปฏิทินเศรษฐกิจบน Pocket Option:
- เปิดแพลตฟอร์มการเทรด
- ไปที่ส่วน “การวิเคราะห์” ซึ่งคุณจะพบข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
- ใช้ข้อมูลนี้เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบของข่าวสารต่อตลาดและตัดสินใจเทรดอย่างรอบคอบมากขึ้น

3. รูปแบบแท่งเทียน
รูปแบบแท่งเทียนเป็นการรวมกันของแท่งเทียนที่สามารถบ่งชี้การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มหรือการกลับตัวในตลาด รูปแบบเหล่านี้สามารถเป็นส่วนเสริมที่ดีให้กับการวิเคราะห์ของคุณและช่วยคาดการณ์ว่าเมื่อไหร่ควรซื้อหรือขาย

บน Pocket Option คุณสามารถติดตามรูปแบบบนแผนภูมิสินทรัพย์และวิเคราะห์เพื่อกำหนดจุดเข้าหรือออก รูปแบบเช่น “Doji” “สายฟ้า” หรือ “Bullish and Bearish Engulfing” สามารถช่วยคุณระบุเมื่อราคาอาจกลับตัว

บทสรุป
Pocket Option มอบเครื่องมือมากมายให้กับเทรดเดอร์ รวมถึงตัวบ่งชี้และสัญญาณ ตลอดจนคุณสมบัติต่างๆ เช่น ปฏิทินเศรษฐกิจ รูปแบบแท่งเทียน และการดูตลาด เพื่อช่วยให้ตัดสินใจซื้อหรือขายได้แม่นยำยิ่งขึ้น การใช้เครื่องมือเหล่านี้จะปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดของคุณและเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจเทรด เริ่มต้นการเดินทางของคุณด้วย บัญชีทดลอง เพื่อทดสอบแนวคิดเหล่านี้โดยไม่มีความเสี่ยงทางการเงิน จากนั้นเปลี่ยนไปสู่การเทรดจริงด้วยขนาดตำแหน่งขั้นต่ำเมื่อความมั่นใจและความสม่ำเสมอของคุณเพิ่มขึ้น
FAQ
ตัวบ่งชี้การซื้อขายบน Pocket Option คืออะไรกันแน่?
ตัวบ่งชี้การซื้อขายบน Pocket Option คือเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่สร้างสัญญาณเฉพาะบอกให้นักเทรดรู้ว่าเมื่อใดที่อาจเข้าสู่ตำแหน่งซื้อหรือขาย ตัวบ่งชี้เหล่านี้ใช้อัลกอริทึมทางคณิตศาสตร์เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลราคาและสภาวะตลาด สร้างสัญญาณที่มองเห็นได้ (มักเป็นลูกศร จุด หรือการเปลี่ยนสี) โดยตรงบนแผนภูมิราคาเพื่อระบุจุดเข้าซื้อขายที่เหมาะสม
มือใหม่สามารถใช้ตัวบ่งชี้การซื้อขายขั้นสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่?
ใช่ มือใหม่สามารถใช้ตัวบ่งชี้ขั้นสูงได้ แต่ควรเริ่มต้นด้วยตัวที่ง่ายกว่าก่อน นักเทรดใหม่ควรมุ่งเน้นที่การทำความเข้าใจตัวบ่งชี้พื้นฐานหนึ่งหรือสองตัวอย่างถ่องแท้ก่อนเพิ่มความซับซ้อน แนะนำให้เริ่มต้นด้วยตัวบ่งชี้ตามแนวโน้มเช่น Moving Averages หรือ MACD จากนั้นค่อยๆ เพิ่มตัววัดความผันผวนเช่น RSI ฝึกฝนกับบัญชีทดลองก่อนเทรดด้วยเงินจริงเพื่อเข้าใจว่าตัวบ่งชี้ทำงานอย่างไรในสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน
ฉันควรใช้ตัวบ่งชี้การซื้อขายหลายตัวพร้อมกันหรือไม่?
การใช้ตัวบ่งชี้ที่เสริมกัน 2-3 ตัวมักมีประสิทธิภาพมากกว่าการพึ่งพาเพียงหนึ่งตัวหรือใส่ตัวบ่งชี้มากเกินไปในแผนภูมิของคุณ กุญแจสำคัญคือการเลือกตัวบ่งชี้ที่ให้ข้อมูลประเภทต่างกัน - ตัวอย่างเช่น การจับคู่ตัวบ่งชี้แนวโน้ม (เช่น Moving Averages) กับตัววัดโมเมนตัม (เช่น RSI) และตัววัดความผันผวน (เช่น Bollinger Bands) ตัวบ่งชี้มากเกินไปอาจนำไปสู่ความสับสนและสัญญาณที่ขัดแย้งกัน
ฉันควรปรับการตั้งค่าตัวบ่งชี้สำหรับกรอบเวลาที่แตกต่างกันอย่างไร?
กรอบเวลาที่สั้นกว่า (1-5 นาที) มักต้องการการตั้งค่าตัวบ่งชี้ที่ตอบสนองมากขึ้นโดยมีช่วงเวลาที่สั้นกว่า (เช่น 9-14 สำหรับ RSI แทนค่ามาตรฐาน 14-21) กรอบเวลาที่ยาวกว่าได้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่ยาวนานขึ้นเพื่อกรองสัญญาณรบกวนของตลาด ควรทดสอบย้อนหลังการตั้งค่าของคุณบนกรอบเวลาเฉพาะที่คุณวางแผนจะเทรดเสมอ นักเทรดหลายคนใช้เกณฑ์ที่อนุรักษ์นิยมมากขึ้นเล็กน้อยสำหรับกรอบเวลาที่สั้นมากเพื่อลดสัญญาณหลอกที่เกิดจากความผันผวนของตลาด
ฉันจะวิเคราะห์รูปแบบแท่งเทียนอย่างไร?
รูปแบบแท่งเทียนช่วยระบุการกลับตัวหรือการต่อเนื่องของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นในตลาด นักเทรดใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการเข้าหรือออกจากตำแหน่ง