- ช่วงซิดนีย์: เป็นช่วงแรกของวัน ทำหน้าที่เปิดตลาดฟอเร็กซ์ มีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับเทรดเดอร์ที่เน้น ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD)
- ช่วงโตเกียว: ทับซ้อนกับ ช่วงซิดนีย์ ทำให้เกิดกิจกรรมในตลาดเพิ่มขึ้น เยนญี่ปุ่น (JPY) เป็นสกุลเงินหลักในช่วงนี้
- ช่วงลอนดอน: เป็นหนึ่งในช่วงเวลาซื้อขายที่สำคัญที่สุด เนื่องจากทับซ้อนกับทั้ง ช่วงโตเกียวและนิวยอร์ก ทำให้เกิด สภาพคล่องสูง และ การเคลื่อนไหวของราคาที่แข็งแกร่ง
- ช่วงนิวยอร์ก: ช่วงสุดท้ายของวันซื้อขาย มีกิจกรรมสูงเนื่องจาก การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่สำคัญซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดโลก
4 ช่วงเวลาการเทรดคืออะไร: ภาพรวมสมบูรณ์ของชั่วโมงการเทรดทั่วโลก

ตลาดฟอเร็กซ์ดำเนินการ 24 ชั่วโมงต่อวัน ห้าวันต่อสัปดาห์ แต่กิจกรรมไม่ได้เป็นแบบเดียวกันทั้งหมด การเข้าใจว่า 4 ช่วงเวลาการเทรดคืออะไรเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเทรดที่ต้องการเพิ่มโอกาสให้สูงสุดและพัฒนากลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพตามรูปแบบความผันผวนและสภาพคล่องของตลาด
ช่วงเวลาซื้อขาย | เวลาซื้อขาย (เวลาแปซิฟิก) | คู่สกุลเงินที่ดีที่สุดสำหรับซื้อขาย | ลักษณะของตลาด |
ช่วงซิดนีย์ | 14:00 – 23:00 | AUD/USD, NZD/USD | ความผันผวนปานกลาง เน้นที่สกุลเงินเอเชีย-แปซิฟิก |
ช่วงโตเกียว | 16:00 – 01:00 | USD/JPY, EUR/JPY, AUD/JPY | การเคลื่อนไหวของราคาที่มั่นคง เหมาะสำหรับกลยุทธ์การซื้อขายเชิงเทคนิค |
ช่วงลอนดอน | 00:00 – 09:00 | EUR/USD, GBP/USD, USD/CHF | ความผันผวนสูง เหมาะสำหรับกลยุทธ์การเบรกเอาท์และการติดตามเทรนด์ |
ช่วงนิวยอร์ก | 05:00 – 14:00 | USD/CAD, EUR/USD, GBP/USD | การเคลื่อนไหวของตลาดที่แข็งแกร่ง สภาพคล่องสูง |
สำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้ Pocket Option การรู้ว่า ช่วงเวลาซื้อขาย 4 ช่วงคืออะไร สามารถช่วยปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม แต่ละช่วงส่งผลต่อสภาวะตลาดแตกต่างกัน และการเลือกช่วงที่เหมาะสมจะเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากการเทรด
- ช่วงซิดนีย์และโตเกียว: เหมาะสำหรับการซื้อขาย คู่สกุลเงิน AUD และ JPY เนื่องจากกิจกรรมตลาดที่สม่ำเสมอ
- ช่วงลอนดอนและนิวยอร์ก: ดีที่สุดสำหรับการซื้อขาย คู่ฟอเร็กซ์หลัก เช่น EUR/USD และ GBP/USD เนื่องจากสภาพคล่องสูงและความผันผวนสูง
การเข้าใจ ช่วงเวลาซื้อขายฟอเร็กซ์ตามเวลาแปซิฟิก ผู้ใช้ Pocket Option สามารถปรับตารางการซื้อขายเพื่อใช้ประโยชน์จากแนวโน้มตลาดและความผันผวน นำไปสู่การดำเนินการซื้อขายที่ดีขึ้นและการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อขายของคุณบน Pocket Option สิ่งสำคัญคือการเข้าใจผลกระทบของช่วงเวลาซื้อขายต่างๆ และใช้ความรู้นี้อย่างมีกลยุทธ์ นี่คือเคล็ดลับบางส่วนที่จะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์สูงสุดจาก ช่วงเวลาซื้อขายฟอเร็กซ์ตามเวลาแปซิฟิก และเพิ่มประสบการณ์การซื้อขายของคุณ
การเลือกช่วงที่เหมาะสมตามคู่สกุลเงินที่คุณชื่นชอบสามารถปรับปรุงผลลัพธ์การซื้อขายของคุณได้อย่างมาก
ช่วงเวลา | ดีที่สุดสำหรับการซื้อขาย | ลักษณะของตลาด |
ซิดนีย์และโตเกียว | AUD/USD, คู่ JPY (เช่น USD/JPY, EUR/JPY) | ความผันผวนปานกลาง แนวโน้มที่มั่นคง |
ลอนดอนและนิวยอร์ก | คู่หลัก (EUR/USD, GBP/USD, USD/CAD) | สภาพคล่องสูง การเคลื่อนไหวของราคาที่แข็งแกร่ง |
ตลาดจะมีกิจกรรมมากที่สุดเมื่อช่วงเวลาซื้อขายหลักสองช่วงทับซ้อนกัน ทำให้เกิดสภาพคล่องและความผันผวนที่เพิ่มขึ้น
ช่วงที่ทับซ้อน | เวลาซื้อขาย (เวลาแปซิฟิก) | ทำไมจึงสำคัญ |
ลอนดอน – นิวยอร์ก | 05:00 – 09:00 | ช่วงที่มีความผันผวนมากที่สุด เหมาะสำหรับการซื้อขายที่รวดเร็ว |
ซิดนีย์ – โตเกียว | 16:00 – 23:00 | ดีที่สุดสำหรับการซื้อขายคู่ AUD และ JPY |
ใช้เครื่องมือของ Pocket Option เช่น กราฟ ตัวบ่งชี้ และกรอบเวลา เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มตลาดตามช่วงเวลาซื้อขาย
- ในช่วงที่มีความผันผวนสูง (ลอนดอนและนิวยอร์ก): ใช้กลยุทธ์การเบรกเอาท์เพื่อใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาขนาดใหญ่
- ในช่วงที่มีความผันผวนต่ำ (ซิดนีย์และโตเกียว): มุ่งเน้นที่กลยุทธ์การซื้อขายช่วงราคาที่ราคาเคลื่อนไหวภายในระดับที่กำหนด
Pocket Option ช่วยให้คุณตั้งค่าการแจ้งเตือนสำหรับสภาวะตลาดเฉพาะ ใช้คุณสมบัตินี้เพื่อรับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาซื้อขายที่คุณชื่นชอบ
หากคุณเป็นมือใหม่ในช่วงเวลาซื้อขาย ให้ใช้ บัญชีทดลองของ Pocket Option เพื่อทดสอบกลยุทธ์ของคุณและทำความเข้าใจว่าช่วงเวลาที่แตกต่างกันส่งผลต่อราคาสินทรัพย์อย่างไร

การเปิดเผยข่าวเศรษฐกิจมักสอดคล้องกับช่วงเวลาซื้อขายหลัก ส่งผลต่อความผันผวนของตลาด ใช้ ปฏิทินเศรษฐกิจของ Pocket Option เพื่อติดตามเหตุการณ์สำคัญและวางแผนการซื้อขายของคุณให้สอดคล้องกัน
การปรับกิจกรรมการซื้อขายของคุณให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่มีกิจกรรมมากที่สุด คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและใช้ประโยชน์จากโอกาสในตลาดบน Pocket Option
ตลาดฟอเร็กซ์เปิด 24 ชั่วโมง แต่แบ่งออกเป็นสี่ช่วงเวลาซื้อขายหลัก: ซิดนีย์ โตเกียว ลอนดอน และนิวยอร์ก แต่ละช่วงมีลักษณะเฉพาะและระดับความผันผวนที่แตกต่างกัน การเข้าใจ ช่วงเวลาซื้อขายฟอเร็กซ์ตามเวลาแปซิฟิก ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถกำหนดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อขาย ขึ้นอยู่กับคู่สกุลเงินและกลยุทธ์ที่พวกเขาชื่นชอบ สำหรับผู้ใช้ Pocket Option ความรู้นี้จำเป็นต่อการเพิ่มกำไรและการตัดสินใจซื้อขายอย่างมีข้อมูล
FAQ
เซสชันการเทรดใดดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น?
เซสชันลอนดอนมักเป็นคำแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นเนื่องจากมีสภาพคล่องสูงและความผันผวนที่คาดการณ์ได้ ช่วงเวลาที่ลอนดอนและนิวยอร์กทับซ้อนกันยิ่งให้โอกาสในการเทรดมากขึ้นพร้อมการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจน ทำให้ผู้เทรดใหม่สามารถระบุจุดเข้าและออกที่เป็นไปได้ได้ง่ายขึ้น
เซสชันการเทรดส่งผลต่อความผันผวนของคู่สกุลเงินอย่างไร?
คู่สกุลเงินมีความผันผวนมากที่สุดเมื่อศูนย์กลางทางการเงินที่เกี่ยวข้องกำลังทำงาน ตัวอย่างเช่น คู่เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) มีการเคลื่อนไหวมากขึ้นในช่วงเซสชันโตเกียว ในขณะที่คู่ EUR และ GBP จะมีความเคลื่อนไหวมากขึ้นในช่วงเซสชันลอนดอน ช่วงเวลาที่ทับซ้อนกันระหว่างเซสชันมักสร้างความผันผวนสูงสุดในหลายคู่สกุลเงิน
ฉันสามารถเทรดให้ประสบความสำเร็จได้โดยเน้นที่เซสชันการเทรดเพียงเซสชันเดียวหรือไม่?
ใช่ นักเทรดที่ประสบความสำเร็จจำนวนมากเชี่ยวชาญในเซสชันเดียวที่เหมาะกับตารางเวลาและรูปแบบการเทรดของพวกเขา การมุ่งเน้นที่เซสชันเดียวช่วยให้คุณกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในพฤติกรรมตลาดเฉพาะ รูปแบบสภาพคล่อง และการเคลื่อนไหวของสกุลเงินที่เป็นลักษณะเฉพาะของช่วงเวลานั้น
ฉันควรปรับกลยุทธ์ของฉันสำหรับเซสชันการเทรดที่แตกต่างกันอย่างไร?
สำหรับเซสชันเอเชีย (ซิดนีย์/โตเกียว) พิจารณากลยุทธ์ที่มีขอบเขตจำกัดเนื่องจากตลาดมักเคลื่อนไหวภายในช่องทาง สำหรับเซสชันลอนดอน/นิวยอร์ก กลยุทธ์การติดตามแนวโน้มและการเบรกเอาต์มักทำงานได้ดีกว่าเนื่องจากความผันผวนที่สูงกว่า ปรับระดับการหยุดขาดทุนและทำกำไรของคุณตามช่วงที่เป็นลักษณะเฉพาะของเซสชันที่คุณเลือกเสมอ
เครื่องมือใดที่สามารถช่วยฉันติดตามเซสชันการเทรดต่างๆ ในเขตเวลาของฉัน?
แพลตฟอร์มหลายแห่งมีตัวบ่งชี้เซสชัน รวมถึง MetaTrader, TradingView และ Pocket Option คุณยังสามารถใช้เว็บไซต์อย่าง ForexFactory หรือ FXStreet ที่มีปฏิทินเศรษฐกิจพร้อมตัวแปลงเขตเวลา แอปมือถืออย่าง Forex Hours หรือ TimeZone Converter มีประโยชน์สำหรับนักเทรดที่ต้องการติดตามเซสชันขณะเดินทาง